คุยกับ “PRI” บ.ย่อยที่จ่อ Spin-off ของ “ORI” ถึงภารกิจสร้าง Life Convenience โชว์พอร์ตแกร่งดูแลผู้บริโภคนับแสนราย คืนเวลาใช้ชีวิตด้วยบริการที่มอบความสะดวกสบายถึงที่พักอาศัย

หลังจาก พีระพงศ์​ จรูญเอก บิ๊กบอสของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ประกาศแผนการเติบโตครั้งยิ่งใหญ่แบบพหุจักรวาล หรือ Origin Multiverse เตรียมส่งบริษัทย่อยในเครือตบเท้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเพิ่มเติมทุกปี เพื่อสร้างเส้นทางการเติบโตใหม่ๆ คู่ขนานต่อเนื่อง ล่าสุด ได้มีการยื่นไฟลิ่งของบริษัทย่อยอย่างบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI (อ่านว่า พี-ริ) เมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อเตรียม Spin-off เป็นบริษัทแรกตามแผนดังกล่าว

จตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรี​โม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เล่าว่า พรีโม ก่อตั้งขึ้นในปี 2554 หรือในช่วงไล่เลี่ยกับบริษัทแม่ไม่นานนัก ธุรกิจแรกเริ่มส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการบริหารนิติบุคคล การบริหารการขายโครงการอสังหาริมทรัพย์

 

แตกต่างจากวันนี้ ที่พรีโมเติบโตและมีธุรกิจใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในทุกช่วงเวลาการใช้ชีวิต หรือ At Your Service Every Moment มี 8 บริษัทย่อย ร่วมดำเนิน 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ 1.กลุ่ม Pre-Living Services หรือกลุ่มธุรกิจต้นน้ำ ให้บริการแก่กลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่ต้องการใช้บริการออกแบบสถาปัตยกรรมอาคาร สำนักงาน หรือโรงงาน ตลอดจนบริหารและควบคุมงานก่อสร้างโครงการ 2.กลุ่ม Living Services หรือกลุ่มธุรกิจกลางน้ำ ให้บริการแก่ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ลูกค้าของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนลูกค้าเกี่ยวเนื่อง ได้แก่ ธุรกิจบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ธุรกิจตัวแทนซื้อ-ขายและจัดหาผู้เช่าห้องชุดหรือบ้านจัดสรร ธุรกิจบริหารโรงแรมและที่อยู่อาศัย

 

3.กลุ่ม Living & Earning Services กลุ่มธุรกิจปลายน้ำ ให้บริการแก่ลูกค้าของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ หรือ ลูกบ้าน เช่น ลูกค้าคอนโดมิเนียม ลูกค้าหมู่บ้านจัดสรร รวมถึงลูกค้าอสังหาริมทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น โรงงาน โรงแรม ศูนย์การค้า อาคารสำนักงาน ได้แก่ ธุรกิจออกแบบและตกแต่งภายในที่พักอาศัย พื้นที่ส่วนกลาง ธุรกิจบริการทำความสะอาดและบริการช่างประเภทต่างๆ

 

“ณ สิ้นเดือน มี.ค.65 หากนับเฉพาะพอร์ตกลุ่มโครงการที่เราเข้าไปบริหารนิติบุคคลให้ มีทั้งสิ้น 62 โครงการ คิดเป็นจำนวนมากกว่า 37,000 ยูนิต หรือคิดเป็นจำนวนลูกบ้านกว่า 65,000 คน เมื่อรวมกับผู้บริโภคในกลุ่มธุรกิจอื่นด้วย ทำให้วันนี้เราดูแลลูกค้าอยู่มากกว่าแสนราย”

 

จตุพร เล่าอีกว่า โจทย์ใหญ่ของการ Spin-off ในครั้งนี้ คือการให้พรีโมมีความคล่องตัวในการเดินหน้าสร้างความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต หรือ Life Convenience ให้แก่ผู้บริโภค เธอมองว่าที่ผ่านมา Pain Point ของงานบริการในที่อยู่อาศัย คือ “กระจัดกระจาย” เมื่อผู้บริโภคต้องการเสาะหาบริการอย่างหนึ่ง ก็ต้องไปเลือกใช้จากผู้ให้บริการเจ้าหนึ่ง ไม่มีผู้ให้บริการทุกด้านครบและจบในที่เดียว นอกจากนี้ หลายๆ บริการยังเรียกร้องให้ต้องเดินทางไปรับบริการข้างนอก ต้องต่อคิวใช้เวลานาน ไม่สอดคล้องกับเมกะเทรนด์ Do Everything At Home ที่กำลังเกิดขึ้น

 

“เราจะเปลี่ยนแบรนด์พรีโม ให้เท่ากับ Life Convenience ดูแลความสะดวกสบายของชีวิต ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่มีไม่จำกัด ช่วยประหยัดเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ของผู้บริโภค ด้วยการมอบบริการสร้างความสะดวกสบายถึงที่พักอาศัย คืนเวลาการใช้ชีวิตสู่ผู้บริโภค”

 

การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงมีส่วนช่วยสร้างการเติบโตให้แก่พรีโมใน 2 ด้านหลักด้วยกัน ได้แก่ 1.การนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในภาคบริการสู่ Service Tech 2.การขยายโอกาสจับมือกับพันธมิตรใหม่ๆ เพื่อสร้าง Community Service โดยเทคโนโลยีและพันธมิตรใหม่ จะเป็นกุญแจสำคัญสู่การขยายการบริการรองรับยุค Do Everything At Home เช่น Co-Nannie พี่เลี้ยงร่วม ที่ช่วยดูแลเด็กๆ ในโครงการ Co-Trainer เทรนเนอร์ร่วม ที่เข้ามาช่วยสอนการออกกำลังกายให้ผู้คนพร้อมกันถึงในคอนโด Community Food Delivery บริการสั่งอาหารที่มีโปรโมชั่นกับร้านใกล้บ้าน บริการดูแลน้องหมาน้องแมว บริการช่างทำเล็บ บริการพาพ่อแม่ไปทำกายภาพบำบัด

 

จตุพร ย้ำว่า การเติบโตลักษณะดังกล่าว จะสร้างประโยชน์ให้แก่ทั้งลูกค้าและธุรกิจใน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ 1.สร้าง Customer Lifetime Value สร้างคุณค่าใหม่ๆ ที่จะช่วยดูแลผู้บริโภคในทุกช่วงชีวิต 2.เปลี่ยนลูกบ้านนับแสนสู่ Active Users เปลี่ยนจากลูกบ้านทั่วไปให้เป็นลูกบ้านที่ซื้อสินค้าและบริการผ่านบริการในเครือพรีโมอย่างต่อเนื่อง และ 3.ดูแลต้นทุนค่าใช้จ่ายของผู้บริโภค ช่วยลดต้นทุนเวลาและต้นทุนค่าใช้จ่ายให้แก่ผู้บริโภค

 

อย่างไรก็ดี กลุ่มธุรกิจในปัจจุบันของพรีโมเองก็มีความแข็งแกร่ง มีบริการหลากหลาย พร้อมดูแลการใช้ชีวิตของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันอยู่แล้ว โดยบริษัทคาดว่า รายได้ในปีนี้มีแนวโน้มจะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา จากการที่มี Big Data และความเข้าใจ Customer Insight ที่เปลี่ยนแปลงในช่วง COVID-19

 

เส้นทางของพรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI บริษัทย่อยวิสัยทัศน์ไกลที่เตรียม Spin-off เป็นบริษัทแรกตามแผน Origin Multiverse จึงเป็นเส้นทางที่น่าจับตา เพราะหากภารกิจสร้าง Life Convenience เกิดขึ้นจริง อาจพลิกโฉมธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในอนาคต ในฐานะบริษัทจดทะเบียนบริษัทแรกที่มีธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์อย่างครบวงจร