‘พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น’ ธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ ผู้เป็นเสมือน Living Partner
PRI x ลงทุนแมน
ถ้าพูดถึงธุรกิจในแวดวงอสังหาฯ คนส่วนใหญ่คงนึกถึงการขาย หรือปล่อยเช่าโครงการต่าง ๆ
แต่รู้หรือไม่ว่า ยังมีอีกธุรกิจที่เป็นการให้บริการด้านอสังหาฯ ซึ่งหลายคนอาจคาดไม่ถึง
แต่กลับแทรกซึมอยู่ในอสังหาฯ ตลอดทั้ง Value Chain
ตั้งแต่งานก่อสร้าง หลังการขาย ตลอดจนการบริหารจัดการโครงการ
และบริษัทที่ทำธุรกิจดังกล่าว ก็กำลังจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เร็ว ๆ นี้
นั่นคือ บมจ. พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น (PRI)
ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ แบบ One Stop Service
ในเครือ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) ผู้พัฒนาอสังหาฯ ครบวงจรรายใหญ่ของประเทศ
ธุรกิจนี้มีความน่าสนใจอย่างไร PRI มีโอกาสเติบโตหรือไม่?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
อย่างที่รู้กันว่า ในช่วง 2-3 ปีมานี้
COVID-19 ทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยหดตัว ทั้งในส่วนของอุปสงค์และอุปทาน
โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียม ซึ่งกำลังซื้อของต่างชาติลดลงอย่างเห็นได้ชัด
จากการที่ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้
รัฐบาลจึงต้องหามาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯ
ไม่ว่าจะเป็นการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์สำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท
และประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV ชั่วคราว
เพื่อพลิกฟื้นอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบ
จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจของผู้ประกอบการในภาคอสังหาฯ
รวมทั้ง PRI ที่จะได้รับประโยชน์จากตลาดที่กลับมาฟื้นตัว
ปัจจุบัน PRI ทำธุรกิจในรูปแบบ Holding Company โดยแบ่งธุรกิจได้เป็น 3 กลุ่ม
1. ธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Pre-Living Services)
บริการที่ปรึกษา ควบคุมงานก่อสร้าง จัดฝึกอบรม ออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้าง และงานโยธา
2. ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาฯ (Living Services)
เช่น นิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ฯลฯ
3. ธุรกิจให้บริการหลังการขายอสังหาฯ (Living & Earning Services)
บริการออกแบบ ตกแต่งภายใน และบริการทำความสะอาด
จะเห็นว่า PRI มีบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ แบบครบวงจร
เรียกได้ว่า ทำหน้าที่เสมือน Personal Assistant หรือผู้ช่วยส่วนตัวของลูกค้าอย่างครบถ้วน
ตั้งแต่ก่อนเข้าอยู่อาศัย เข้าอยู่อาศัยแล้ว และบริการหลังการขายอสังหาฯ
ภายใต้แนวคิดการเป็น Living Partner หรือเพื่อนคู่คิดในการใช้ชีวิต
ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการอยู่อาศัยในทุกจังหวะของการใช้ชีวิต
และมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมการให้บริการอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร
ซึ่งการทำธุรกิจครบวงจร ตอบสนองความต้องการในทุกแง่มุมของการอยู่อาศัยนั้น ทำให้ PRI มีกลุ่มลูกค้าหลากหลาย
ทั้งผู้พัฒนาโครงการ เจ้าของอสังหาฯ รวมถึงกลุ่มลูกค้าที่อยู่อาศัยในโครงการ
โดยมีกลุ่มลูกค้าเดิมที่พึงพอใจและกลับมาใช้บริการซ้ำอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน ลูกค้าของ PRI อยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เป็นส่วนใหญ่
โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะขยายกลุ่มลูกค้าไปยังเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง
ซึ่งเป็นพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มากขึ้น
เพื่อรองรับดีมานด์ที่มีโอกาสเติบโตไปกับภาคอุตสาหกรรมและภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคต
สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมา
ปี 2562 มีรายได้รวม 255.69 ล้านบาท กำไรสุทธิ 34.52 ล้านบาท
ปี 2563 มีรายได้รวม 266.51 ล้านบาท กำไรสุทธิ 40.05 ล้านบาท
ปี 2564 มีรายได้รวม 489.56 ล้านบาท กำไรสุทธิ 111.25 ล้านบาท
งวด 9 เดือน ปี 2565 มีรายได้รวม 604.26 ล้านบาท กำไรสุทธิ 156.02 ล้านบาท
รายได้ของ PRI มาจากธุรกิจบริหารจัดการอสังหาฯ และธุรกิจบริการหลังการขายอสังหาฯ เป็นหลัก
โดยเฉพาะการให้บริการบริหารนิติบุคคล และออกแบบตกแต่งภายในและติดตั้ง ที่มีรายได้เพิ่มขึ้น
แม้ภาพรวมธุรกิจอสังหาฯ ที่ผ่านมาอยู่ในช่วงถดถอยท่ามกลางปัจจัยลบหลากหลาย
แสดงถึงความแข็งแกร่งของ PRI ที่นอกจากจะได้รับการสนับสนุนจากบริษัทแม่อย่าง ORI แล้ว
PRI ยังวางกลยุทธ์ขยายบริการในรูปแบบใหม่ ๆ ควบคู่กับการพัฒนาบริการที่มีอยู่
เพื่อขยายฐานลูกค้า และขยายการให้บริการแก่โครงการในเครือ ORI
รวมถึงลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีในการให้บริการ
เพื่อให้กระบวนการทำงานเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
สำหรับการเข้า IPO ที่กำลังจะเกิดขึ้นครั้งนี้
PRI จะเสนอขายหุ้น IPO จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25
ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ PRI จะเปิดจองซื้อหุ้น IPO ในวันที่ 22-24 พ.ย. นี้ ที่ราคาหุ้นละ 15 บาท
โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSEQ01.aspx?TransID=448843