ซื้อคอนโด ติดแบล็คลิสต์ แก้อย่างไร ?

ติดแบล็คลิสต์

ใครที่ติด แบล็คลิสต์ หรือเป็นผู้มีประวัติค้างชำระ คงมีคำถามว่าจะซื้อบ้านหรือคอนโด ได้ไหม วันนี้เรามีคำตอบ

เครดิตบูโร คืออะไร

เครดิตบูโร คือ “บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลประวัติของธุรกรรมทางการเงินทั้งหมดของเรา ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อบัตรกดเงินสด สินเชื่อกู้ซื้อบ้าน ผ่อนรถยนต์ และอื่น ๆ รวมถึงประวัติการกู้ ผ่อน จ่ายทั้งหมดของเรานั่นเอง ดังนั้น ประวัติด้านการเงินของเราเกี่ยวกับธุรกรรมต่าง ๆ จะถูกบันทึกและจัดเก็บข้อมูลไว้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นประวัติที่ดีหรือประวัติที่ไม่ดีก็ตาม

โดย “เครดิตบูโร หรือ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” เป็นเพียงตัวกลางที่ทำหน้าที่จัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงินให้กับสถาบันต่าง ๆ ใช้เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการปล่อยหรือการอนุมัติสินเชื่อให้กับบุคคลที่มาขอยื่นกู้เท่านั้น

ติดแบล็คลิสต์ คืออะไร ?

กล่าวคือ การ “ติดเครดิตบูโร” หรือ “ติดแบล็คลิสต์” เป็นการบ่งบอกถึงสถานะทางการเงินของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่มีปัญหา ซึ่งจะประเมินจากพฤติกรรมการใช้จ่าย ซื้อของ ผ่อนชำระสินค้าและบริการต่าง ๆ ที่เก็บบันทึกโดย “เครดิตบูโร” หรือ “บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด” โดยหากเรามีพฤติกรรมการใช้เงินที่ไม่ดี เช่น 
1. มีหนี้เกินเงินเดือน เลยทำให้จ่ายล่าช้า สุดท้ายจ่ายไม่ไหว

2. มีหนี้เก่าต้องเคลียร์

3. มีภาระผ่อนหลายที่

4. เป็นหนี้นอกระบบ

5. ค่าใช้จ่ายรายเดือนสูง

6. บัญชีเก่าปิดไม่ลง

ซึ่งการขออนุมัติสินเชื่อ ทางสถาบันทางการเงิน หรือธนาคารจะดูปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัยประกอบการตัดสินใจ เพราะ “บ้าน” หรือ คอนโด ถือว่าเป็นสินทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูง ดังนั้นปัจจัยหนึ่งที่เจ้าหน้าที่จะนำมาใช้ในการพิจารณานั่นก็คือข้อมูลจากทาง “เครดิตบูโร”

หากผู้ขอยื่นกู้มีประวัติดี มีวินัยในการชำระหนี้ดี ก็จะมีแนวโน้มที่จะได้รับการอนุมัติสูง แต่ถ้าหากผู้กู้มีประวัติการชำระหนี้ไม่ดี ผ่อนชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนด รวมถึงมียอดค้างชำระหนี้อยู่ในระบบ ทางสถาบันการเงินหรือธนาคารย่อมไม่ไว้วางใจในการอนุมัติสินเชื่อดังกล่าว เนื่องจากมีแนวโน้มว่าผู้กู้จะมีหนี้เสียหรืออาจผิดค้างชำระหนี้จนเกิดปัญหาตามมา

ดังนั้นการติด “แบล็คลิสต์” เป็นเพียงคำนิยามของ “ผู้ที่มีประวัติในการผ่อนชำระหนี้ที่ไม่ดีหรือผ่อนชำระหนี้ไม่ได้ตามข้อตกลง” เท่านั้น ซึ่งไม่ได้มีการขึ้นบัญชีรายชื่อในระบบใด ๆ

แก้การ ติดแบล็คลิสต์ เพื่อซื้อบ้าน และคอนโด ทำอย่างไร ?

  1. พบสถาบันทางการเงิน

เข้าเจรจากับสถาบันทางการเงินเจ้าหนี้ ขอผ่อนระยะเวลาชำระหนี้ออกไป เพื่อทำการปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ และหาทางทำสัญญาเพิ่มเติม ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างหนี้

  1. ชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด

กลับมาชำระหนี้ให้ตรงเวลา เพื่อรักษาเครดิตที่ดีเอาไว้ พร้อมเก็บเอกสารการชำระหนี้ทุกชิ้นเพื่อเป็นหลักฐาน และควรเก็บหลักฐานที่เราจ่ายค่างวด เพราะหลักฐานสามารถนำไปยื่นขอสินเชื่อตัวใหม่หลังจากที่พ้นแบล็คลิสต์ไปแล้ว

  1. เช็คข้อมูล

เมื่อชำระจนครบแล้ว ให้ตรวจสอบข้อมูล ด้วยตัวคุณเองที่บริษัทข้อมูลแห่งชาติ หรือเครดิตบูโร เพื่อเช็คว่าสถาบันการเงินเจ้าหนี้ได้แจ้งเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้หรือยัง เพราะข้อมูลยังอยู่กับเครดิตบูโรอยู่ อย่างน้อย 3 ปี โดยระยะเวลาที่เครดิตบูโรจะลบข้อมูล ระยะเวลาจะอยู่ประมาณ 36 เดือน หรือ 3 ปี เป็นต้นไป

  1. รักษาเครดิตเอาไว้

เมื่อเคลียร์ปัญหาติดแบล็คลิสต์เรียบร้อย จนกระทั่งคุณสามารถทำบัตรเครดิตใหม่ได้ อย่าลืม ชำระหนี้ให้ตรงตามกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาติดแบล็คลิสต์ ติดเครดิตบูโรอีก ไม่อย่างนั้นเครดิตของคุณก็เสียไปด้วยเช่นกัน

แก้การ ติดแบล็คลิสต์ แล้วยื่นเอกสารกู้ได้เลยไหม ?

จะต้องพิจรณาขึ้นอยู่กับหนี้นั่นเป็นหนี้รูปแบบไหน เช่น ค้างจ่ายหลายงวด นานเป็นปี จนมีการฟ้องร้อง ถ้าแบบนี้ต้องเคลียร์หนี้ทุกอย่างให้จบ ซึ่งข้อมูลของคุณก็ยังอยู่ในระบบอีก 3 ปี (เครดิตบูโรเก็บข้อมูลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด)

โดยภายใน 3 ปีนี้ก็จะยังไม่สามารถกู้ได้ แต่หลังจากนั้นข้อมูลการค้างชำระของคุณจึงจะหายไป จึงจะสามารถกู้ซื้อบ้านได้ ซึ่งระหว่างนี้เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของประวัติทางการเงินให้ดูดีขึ้นและเพื่อเพิ่มโอกาสในการกู้ ควรปฏิบัติตามนี้

  1. เดินบัญชีธนาคารอย่างสม่ำเสมอ มีรายการเงินเข้าออกเป็นประจำ
  2. ปิดบัญชีบัตรเครดิตต่างๆ ที่ไม่ได้ใช้ เพื่อให้เห็นถึงวินัยในการใช้จ่าย และใช้จ่ายเฉพาะสิ่งจำเป็น
  3. มีเงินเก็บภายในบัญชีมากระดับหนึ่ง
  4. รักษาประวัติการผ่อนชำระรายการอื่นๆ ที่ยังมีอยู่ให้สม่ำเสมอ

สำหรับใครที่ต้องการตรวจสอบว่าเรา ติดแบล็คลิสต์ หรือ ติดบุโร หรือไม่ สามารถทำการตรวจสอบสถานะเครดิตบูโรของเราเองเพียง 15 นาที ตามสถานที่ด้านล่างนี้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการอยู่ที่ 100 บาท

ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ส แกรนด์ พระราม 9 ชั้น 2 (โซนพลาซา)วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-16.30 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์
เครดิตบูโรคาเฟ่ อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก ชั้น 3 (โซนธนาคาร) สถานีรถไฟฟ้า BTS อารีย์ ทางออก 1วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น. หยุดวันนักขัตฤกษ์
ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต (ภายในสถานี)วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น.
ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร สถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง (ภายในสถานี)วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00-18.00 น. หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์
ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร-ท่าวังหลัง (บริเวณทางเข้า-ออกท่าเรือ และใกล้ประตู 8 ของโรงพยาบาลศิริราช)วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น.
ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร ห้างเจเวนิว (นวนคร) ชั้น 3 ติดประกันสังคมวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-18.00 น.

ติดตามบทความเพิ่มเติมได้ที่ PRI