ลมหนาวมาแล้ว เป็นที่รู้กันว่าทางตอนเหนือของประเทศไทย ต้องหนาวอย่างแน่นอน โดยเฉพาะบน ดอย ที่เที่ยวหน้าหนาว 2566 ที่ฮิตกันในทุกๆ ปี แต่ว่าจะมีดอยอะไรบ้างวันนี้ เราได้รวบรวมมาให้แล้ว ไปดูกันได้เลย
ตะลุย 10 ดอย ที่เที่ยวหน้าหนาว2566
1.ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย
ททท. หรือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลไว้ดังนี้ ดอยแม่สลอง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคิรี เดิมชื่อบ้านแม่สลองนอก เป็นชุมชนของอดีตทหารจีนกองพล 93 ที่อพยพจากสหภาพพม่า เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศหนาว จะมีดอกนางพญาเสือโคร่ง ซึ่งเป็นซากุระพันธุ์ที่เล็กที่สุด สีชมพูอมขาว บานสะพรั่งตลอดแนวทางขึ้นดอยแม่สลอง
แหล่งท่องเที่ยวบนดอยแม่สลอง ได้แก่ พระธาตุเจดีย์ศรีนครินทราสถิตมหาสันติคีรี พระธาตุที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนา พิพิธภัณฑ์วีรชนอดีตทหารจีนคณะชาติ กิจกรรมชมไร่ชาและศึกษาวิธีการผลิตชา เลือกซื้อสินค้าจำพวกพืชผักและผลไม้เมืองหนาว ของพื้นเมือง ชมตลาดสดยามเช้าภายในหมู่บ้านสันติคีรี ขี่ม้าชมทิวทัศน์รอบหมู่บ้านเจียงจาใส
การเดินทาง ใช้เส้นทางเชียงราย-แม่จัน 28 กิโลเมตร เลยจากอำเภอแม่จันไป 1 กิโลเมตร มีทางแยกซ้ายไป 23 กิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านผาเดื่อ ซึ่งเป็นจุดแวะชมและซื้อหัตถกรรมชาวเขา จากนั้นเดินทางจากบ้านอีก้อสามแยก (ทางขวาไปหมู่บ้านเทิดไทย) ตรงไปดอยแม่สลอง ระยะทาง 10 กิโลเมตร รวมระยะทางจากเชียงราย 64 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางลาดยางตลอดสาย และจากดอยแม่สลองมีถนนเชื่อมต่อไปถึงบ้านท่าตอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ระยะทาง 45 กิโลเมตร ในกรณีไม่ได้ขับรถมาเอง ให้ขึ้นรถประจำทางจากตัวเมืองเชียงราย แล้วไปต่อรถสองแถวที่ปากทางขึ้นดอยแม่สลอง สอบถามรายละเอียดโทรศัพท์ 08 1024 0813
2.ภูชี้ฟ้า จ.เชียงราย
วนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็น อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ตามที่ ททท. ให้ข้อมูลไว้ วนอุทยานภูชี้ฟ้า เป็นส่วนหนึ่งของดอยผาหม่น อยู่ห่างจากดอยผาตั้ง 25 กิโลเมตร เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามราวภาพวาด ด้วยทิวทัศน์ของภูเขาสลับซับซ้อนดูกว้างไกล การจะเดินขึ้นไปชมทะเลหมอกควรจะขึ้นไปยอดภูตั้งแต่ฟ้ายังมืด
ภาพของภูเขาสูงที่มีแสงอาทิตย์สีทองสาดจับยามเช้าตรู่ที่มีผืนทะเลหมอกสีขาวโพลนสุดอลังการอยู่เบื้องล่าง คือภาพของภูชี้ฟ้าที่ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะกับนักเดินป่าท่องธรรมชาติแล้ว ครั้งหนึ่งในชีวิตของพวกเขาต้องได้มาเยือนภูสูงแห่งนี้เลยทีเดียว
วนอุทยานภูชี้ฟ้าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางราว ๆ 1,200-1,628 เมตร โดยในอดีตนั้นเคยเป็นสมรภูมิรบ ที่เกิดจากความขัดแย้งทางความคิดทางการเมือง ระหว่างกลุ่มคนยึดมั่นในแนวทางคอมมิวนิสต์ และได้จัดตั้งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยขึ้น กับเจ้าหน้าที่รัฐ ที่ต้องเข้าปราบปรามจนเกิดเหตุการณ์นองเลือดอันน่าสลดใจ ครั้นเรื่องราวต่าง ๆ ได้คลี่คลายหวนคืนสู่สันติสุขอีกครั้ง ความงดงามของภูชี้ฟ้าก็เริ่มเป็นที่กล่าวขาน จากภาพของหน้าผาสูงที่ยื่นล้ำเข้าไปในฝั่งลาว และเป็นจุดที่สูงที่สุด ในดอยผาหม่นจนได้รับฉายาว่าเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุด และมีสภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวนั้น ที่นี่จะหนาแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสความหนาว ชมทะเลหมอกยามเช้า และดื่มด่ำความสวยงามของดอกชงโคป่าสีขาวที่ออกดอกบานสะพรั่ง
ซึ่งบริเวณภูชี้ฟ้าแห่งนี้ สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ วนอุทยานภูชี้ฟ้า (หัวหน้าฯ 08 1883 4510) หรือ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อำเภอเทิง ที่ว่าการอำเภอเทิง โทร. 0 5379 5345
3.ดอยผ้าห่มปก จ.เชียงใหม่
อุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปก (Doi Pha Hom Pok National Park) หรือ ดอยผ้าห่มปก ซึ่งความสูง 2,285 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง มีความสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศไทย รองจากดอยอินทนนท์ บนยอดสูงสุดนั้นมีสภาพเป็นทุ่งโล่งอันเกิดจากสภาพธรณีวิทยาที่มีชั้นดินตื้น พื้นเป็นหินแกรนิตมีลมแรง
ดอยผ้าห่มปก มีเมฆหมอกปกคลุมยอดดอยและมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ดอยผ้าห่มปกมีต้นไม้ดอกไม้สวย ๆ หลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะกล้วยไม้ที่มีพันธุ์หายากอยู่ที่นี่ นกสวย ๆ แปลก ๆ ก็มีให้ชมมากเป็นพิเศษในช่วงหน้าหนาว ซึ่งมีนกอพยพเยอะ เช่น นกปีกแพรสีม่วง นกปรอดหัวโขนก้นเหลือง นกเดินดงคอแดง นกเดินดงดำปีกเทา นกเดินดงสีน้ำตาลแดง เป็นต้น
สำหรับคนชอบผีเสื้อ ที่ดอยผ้าห่มปกมีผีเสื้อมรกตผ้าห่มปก ซึ่งพบที่นี่แห่งเดียวเท่านั้นในประเทศไทย ผีเสื้อหางติ่งแววเลือน ผีเสื้อหางดาบตาลไหม้ เป็นต้น จุดเด่นอีกอย่างของอุทยานแห่งชาติดอยผ้าห่มปกคือ มีบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ ที่เกิดจากความร้อนใต้ดิน มีจำนวนมากหลายบ่อ ในพื้นที่ประมาณ 10ไร่
สถานที่น่าสนใจในอุทยานดอยผ้าห่มปก (Chiang Mai Travel) ประกอบด้วย จุดชมวิว น้ำตก น้ำพุร้อน ถ้ำ อย่างเช่น ยอดดอยผ้าห่มปก บ่อน้ำพุร้อนฝาง น้ำตกโป่งน้ำดัง น้ำตกตาดหลวง ถ้ำห้วยบอน ทะเลหมอกบริเวณยอดดอยผ้าห่มปก น้ำตกนามะอื้น เส้นทางปั่นจักรยานเสือภูเขา ดอยลาง น้ำรู จากลานกางเต็นท์ไปบนยอดดอย ต้องเดินเท้า ระยะทางราว 3.5 กม. ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง บนยอดดอยสามารถชมวิวได้โดยรอบ ชมทะเลหมอกในช่วงหน้าหนาว ข้อมูลที่พัก มีบ้านพักบริการที่น้ำพุร้อนฝาง (ที่ทำการอุทยานฯ ) ราคา 2,000 บาท บนดอยผ้าห่มปกมีเฉพาะลานกางเต็นท์
4.ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่
ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ ยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านหลวง แต่เดิมนั้นดอยอินทนนท์มีชื่อว่า “ดอยหลวง” หรือ “ดอยอ่างกา” ดอยหลวง หมายถึงภูเขาที่มีขนาดใหญ่ ห่างจากดอยอินทนนท์ไปทางทิศตะวันตก 300 เมตร ส่วนที่เรียกว่าดอยอ่างกานั้น มีเรื่องเล่าว่า มีหนองน้ำอยู่แห่งหนึ่งลักษณะเหมือนอ่างน้ำ แต่ก่อนนี้ มีฝูงกาไปเล่นน้ำกันมากมาย จึงเรียกว่า อ่างกา ต่อมาจึงรวมเรียกว่า ดอยอ่างกา
ดอยอินทนนท์เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัยซึ่งพาดผ่านจากประเทศเนปาล ภูฏาน เมียนมา และมาสิ้นสุดที่นี่ สิ่งที่น่าสนใจของดอยนี้ไม่เพียงแต่เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศเท่านั้น แต่สภาพภูมิประเทศและสภาพป่าที่หลากหลาย อากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีหมอกปกคลุมเกือบทั้งวัน และบางครั้งน้ำค้างยังกลายเป็นน้ำค้างแข็ง
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว อยู่บริเวณใกล้กับยอดดอย แสดงนิทรรศการเรื่องราวของดอยอินทนนท์จากอดีตถึงปัจจุบัน ให้ความรู้ทั้งสภาพทางภูมิศาสตร์ ทางชีววิทยา ป่าไม้ สิ่งมีชีวิต ซึ่งบางชนิดหาดูได้ที่นี่แห่งเดียวในเมืองไทย ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 9 ของเส้นทางหมายเลข 1009 มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำรวมทั้งบริเวณที่ทำการยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมที่พักไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
เปิดให้เช้าชมตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น. อัตราค่าบริการเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 150 บาท ค่ารถ 30 บาท ด่านที่ 1 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ด่านที่ 2 เป็นบริเวณยอดดอยและจุดชมวิว สอบถามข้อมูลได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 0 5328 6728 กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 0 2562 0760 หรือ www.dnp.go.th
ความฟินนี้ต้องไปช่วงหน้าหนาว
5.ดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่
ดอยหลวงเชียงดาว เป็นอีกหนึ่งดอยที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยเชียงดาว อำเภอเชียงดาว ยอดสูงสุดของดอยเชียงดาว เรียกว่า ดอยหลวงเชียงดาว (เพี้ยนมาจากคำที่ชาวบ้านในละแวกเปรียบเทียบดอยนี้ว่าสูง “เพียงดาว”) มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนรูปกรวยคว่ำสูง 2,195 เมตร จากระดับน้ำทะเล นับเป็นยอดดอยที่สูงอันดับ 3 ของประเทศรองจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก
จากบนยอดดอยซึ่งเป็นที่ราบแคบ ๆ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามรอบด้าน คือ ทะเลหมอกด้านอำเภอเชียงดาว ดอยสามพี่น้อง เทือกดอยเชียงดาว ตลอดจนถึงยอดดอยอินทนนท์อันไกลลิบ อากาศเย็น ลมแรง และสมบูรณ์ด้วยดอกไม้ป่าภูเขาที่หาชมได้ยากมากมายรวมทั้งนกและผีเสื้อด้วย การเข้าไปใช้พื้นที่ต้องทำหนังสือขออนุญาตถึงผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า อย่างน้อย 15 วัน ก่อนการเดินทาง สอบถามข้อมูล โทร. 0 2561 4836, 0 2561 2947
การเดินทาง สู่ยอดดอยเชียงดาวเริ่มที่ถ้ำเชียงดาว ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อคนนำทาง ลูกหาบ รวมทั้งรถไปส่งที่จุดเริ่มเดิน (เด่นหญ้าขัด)ได้ โดยค่าเช่ารถประมาณ 900 บาท ค่าจ้างลูกหาบประมาณวันละ 400 บาทต่อลูกหาบหนึ่งคน บนดอยเชียงดาวไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ ต้องเตรียมอุปกรณ์พักแรมและอาหารไปเองส่วนทางลงนิยมใช้ทางสายบ้านถ้ำซึ่งอยู่ใกล้กับถ้ำเชียงดาว เพราะมีทางสูงชันสามารถลงได้รวดเร็วกว่าแต่ไม่เหมาะกับการขึ้น
6.ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่
ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาวในพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นยอดดอยสลับซับซ้อน มีความสูงประมาณ 1,400-1,900 เมตร ดั้งเดิมนั้นดอยอ่างขางเป็นพื้นที่ที่มีการทำไร่เลื่อนลอยและมีการปลูกฝิ่นจำนวนมาก แต่ด้วยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่อยากให้ชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ตามดอยต่าง ๆ ทางภาคเหนือมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จึงมีพระราชดำริให้จัดตั้งสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง เพื่อเป็นสถานที่ทดลอง และค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับพืชเมืองหนาว พร้อมกับให้ชาวบ้านในท้องถิ่นได้เข้าไปศึกษาดูงาน จนนำความรู้ไปพัฒนาแล้วสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้
จุดท่องเที่ยวบนดอยอ่างขาง ได้แก่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง, แปลงปลูกสตรอว์เบอร์รีหมู่บ้านนอแล, หมู่บ้านนอแล, จุดชมวิวขอบด้ง, หมู่บ้านขอบด้ง, จุดชมวิวม่อนสน, พระธาตุดอยอ่างขาง, หมู่บ้านหลวง, อุโมงค์ดอกนางพญาเสือโคร่ง
7.ดอยเสมอดาว จ.น่าน
ดอยเสมอดาว อยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในตำบล ศรีษะเกษ อำเภอ นาน้อย จังหวัดน่าน 55150 ดอยเสมอดาว อยู่สูงถึง888 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ห่างจากตัวเมืองน่านเพียง 76 กม. ใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ดอยเสมอดาว เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวที่ผู้คนแห่เข้ามาเที่ยวไม่น้อย เพื่อเข้ามาชมความสวยงาม สัมผัสบรรยากาศทะเลหมอก วิวทิวทัศน์ในยามค่ำคืนและยามเช้าตรู่ นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยว ชอบมากางเต็นท์พักผ่อนชมวิว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก ชมดาวในตอนค่ำที่สวยดุจสวรรค์บนดิน กับ ชมทะเลหมอกที่เต็มเทียบเสมอยอดเขาในตอนเช้า บรรยากาศเย็นสดชื่น สบาย หันไปทางไหนก็สวยละลานตาไปหมด
บ้านพักและสิ่งอำนวยความสะดวก มีบ้านพักรับรอง และเต็นท์ให้เช่า แต่ต้องเตรียมอาหารไปเอง ติดต่อและสอบถามรายละเอียดได้ที่ กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร.02562 0760 หรือ www.dnp.go.th
8.ม่อนกิ่วลม จ.ตาก
ม่อนกิ่วลม ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแม่เมย ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก การเดินทาง – จาก จ.ตาก มา อ.แม่สอด และ อ.ท่าสองยาง รวม ประมาณ164 ก.ม. จาก อ.ท่าสองยางใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 105 (แม่สอด – แม่สะเรียง) ระยะทางประมาณ 33 ก.ม. ถึงทางแยกแม่สลิดหลวง เลี้ยวขวาตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1267 (แม่สลิด-อมก๋อย) ระยะทางประมาณ 11 ก.ม. เส้นทางค่อนข้างชัน ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เมย
ม่อนกิ่วลม ตั้งอยู่ ณ อุทยานแห่งชาติแม่เมย จังหวัดตาก บริเวณแนวตะเข็บชายแดนด้านตะวันตกของไทยติดต่อกับประเทศพม่า ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติ ป่าเขา ลุ่มน้ำอุดมสมบูรณ์ ม่อนกิ่วลมถือเป็นแหล่งชมทะเลหมอกอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่เรียกว่าแหล่งเพราะว่าที่นี่มีทะเลหมอกให้คุณได้ชมมากกว่าหนึ่งจุด คือ ม่อนกระทิง ม่อนพูนสุดา ม่อนครูบาใส ม่อนกิ่วลม และม่อนปุยหมอก เกือบทั้งหมดที่ว่ามานี้ รถยนต์สามารถเข้าถึงได้ สะดวกแก่การเดินทาง และที่สุดของการมาเยือนอุทยานแห่งชาติแม่เมยก็คือ ม่อนกิ่วลม ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลราว 900 เมตร เป็นจุดยอดนิยมของนักท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่รถยนต์สามารถเข้าถึงได้
ม่อนกิ่วลม มีความพิเศษกว่าจุดอื่นๆ ตรงที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้ทั้งสองทิศทาง คือทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก ทั้งยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้น โดยนักท่องเที่ยวส่วนมากนิยมขึ้นมากางเต้นท์นอนพอรอชมพระอาทิตย์ขึ้นกันบนนี้ บางคืนสามารถมองเห็นทะเลหมอกปรากฎขึ้นตั้งแต่ตีสองตีสามกันเลยทีเดียว
และความโดดเด่นไม่เหมือนใครของทะเลหมอกที่นี่ก็คือ หมอกจะอยู่นานมาก กว่าจะหมดก็เกือบเที่ยงวัน ถ้าท่านใดไม่เคยเห็นทะเลหมอกสวยๆ มาที่นี้รับรองไม่ผิดหวัง เพราะโดยปกติแล้วในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเมย จะเป็นแหล่งที่มีความชุ่มชื้น เกิดจากผืนป่าและลำน้ำที่ สมบูรณ์ เราจึงสามารถเห็นทะเลหมอกที่อุทยานฯ แม่เมยได้ตลอดทุกฤดูกาล ยกเว้นบางช่วงสภาพอากาศปิดหรือเปลี่ยนแปลง
ออกเดินทางเพื่อสัมผัสธรรมชาติ
9.ภูกระดึง จ.เลย
ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาพรรณ สัตว์ป่านานาชนิด หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต
สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้น จากเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูกระดึง – Phu Kradueng National Parkอัปเดตข้อมูลได้มีการปรับเวลาขึ้น-ลงภูกระดึง มีรายละเอียด ดังนี้
- วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 06.00-13.00 น.
- วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 05.30-13.00 น.
- หลังจากเวลา 13.00 น. ไม่อนุญาตให้ผ่านขึ้นเขาทุกกรณี
เพราะระยะทางในการเดินขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องวางแผนให้ดี ๆ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง
บริเวณที่ทำการอุทยานมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (คนไทย) คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท, ผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) 100 บาท เด็ก 200 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 30 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 042 810 833 และ 042 810 834
10.ภูเรือ จ.เลย
อุทยานแห่งชาติภูเรือ เป็น อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 16 ของประเทศ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูเรือและอำเภอท่าลี่ นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่นี่ส่วนใหญ่ มักเดินทางขึ้น “ยอดภูเรือ” จุดที่สูงที่สุดในเขตอุทยาน ความสูง 1,365 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง เพื่อชมแสงแรกของพระอาทิตย์ และสัมผัสกับบรรยากาศหนาวเย็น ท่ามกลางทะเลหมอกที่ลอยคลอเคลียยอดเขา
นอกจากนี้โดยรอบบริเวณยอดภูเรือยังมีธรรมชาติสวย ๆ ทั้งป่าสนเขา สวนหินธรรมชาติ และดอกไม้หลากหลายสายพันธุ์ให้เราได้ชื่นชม และยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายจุด เช่น ผาโหล่นน้อย, ผาซ่าทอง, น้ำตกห้วยไผ่, สวนหินพาลี, ลานหินแตก, ทุ่งหินพานขันหมาก และหินเต่า เป็นต้น
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตำบลหนองบัว อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
เบอร์โทรศัพท์ : 0-4281-0965, 08-8509-5299
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติภูเรือ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก
𝐏𝐫𝐢𝐦𝐨 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞 𝐒𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬
เป็นผู้นำในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรและกำกับดูแลกิจการในกลุ่มบริษัทในเครือ ให้พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาและลงทุนในธุรกิจสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞𝐬, 𝐇𝐚𝐩𝐩𝐲 𝐌𝐚𝐤𝐞𝐫
Tel : 02-0810000
Website: https://primo.co.th/
Line : https://lin.ee/Jt3nhkF