กระบวนการออกแบบ สถาปัตยกรรมมีอะไรบ้างและต้องระวังด้านใด อัปเดต 2568

การออกแบบสถาปัตยกรรม

การออกแบบสถาปัตยกรรม คืออะไร?

การออกแบบสถาปัตยกรรม (Architectural Design) เป็นกระบวนการสร้างและพัฒนางานออกแบบที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้าง ซึ่งการออกแบบนั้นมีความหลากหลายและสามารถแบ่งได้หลายประเภท ขึ้นอยู่กับเกณฑ์ในการใช้แบ่งแต่โดยทั่วไปแล้วการออกแบบสถาปัตยกรรมเป็นขั้นตอนที่สถาปนิกใช้เพื่อพัฒนาแนวคิดและนำไปสู่การก่อสร้างจริง โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. การวางแนวคิด (Concept Design)

  • การสำรวจข้อมูล : สถาปนิกจะเริ่มจากการพูดคุยกับลูกค้าเพื่อเข้าใจความต้องการ เช่น ขนาดโครงการ งบประมาณ และเป้าหมายการใช้งาน รวมถึงการศึกษาพื้นที่ เพื่อดูสภาพแวดล้อม, ทิศทางลม, แสงแดด และบริบทโดยรอบ
  • การสร้างแนวคิดหลัก (Design Concept) : สร้างแนวคิดที่สะท้อนความต้องการของลูกค้าและความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น เลือกสไตล์ที่ต้องการ (โมเดิร์น, คลาสสิก)

2. การพัฒนาแนวคิด (Schematic Design)

  • การร่างแบบเบื้องต้น (Preliminary Design) : สร้างแผนผังพื้นฐานและภาพร่าง 3 มิติ เพื่อแสดงให้เห็นแนวทางการออกแบบ เช่น การจัดวางพื้นที่ใช้สอย, ทิศทางของอาคาร
  • การนำเสนอแนวคิด (Concept Presentation) : แสดงผลการออกแบบเบื้องต้นให้ลูกค้าพิจารณาและรับฟังความคิดเห็นเพื่อปรับปรุง

3. การพัฒนาแบบ (Design Development)

  • การเพิ่มรายละเอียด (Detailing) : ปรับปรุงแบบแปลนให้มีความสมบูรณ์ เช่น การกำหนดตำแหน่งหน้าต่าง, ประตู, และการเลือกวัสดุ
  • การเลือกวัสดุและสี (Material & Color Selection) : ระบุชนิดของวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้าง เช่น กระเบื้อง, ไม้, หรือโลหะ และกำหนดโทนสี
  • การคำนึงถึงระบบอาคาร (Building Systems) : การออกแบบระบบไฟฟ้า, ระบบน้ำ, และการระบายอากาศ

4. การจัดทำเอกสารก่อสร้าง (Construction Documentation)

  • การสร้างแบบแปลนละเอียด (Construction Drawings) : จัดทำแบบแปลนที่ละเอียด เช่น แปลนพื้น, แปลนโครงสร้าง และแปลนระบบอาคาร
  • การจัดทำเอกสารสเปค (Specifications) : ระบุข้อกำหนดและคุณสมบัติของวัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อสร้าง
  • การประเมินต้นทุน (Cost Estimation) : คำนวณต้นทุนของโครงการอย่างละเอียดเพื่อให้เหมาะสมกับงบประมาณ

5. การประสานงานและการอนุมัติ (Coordination & Approval)

  • การยื่นขออนุญาต (Permits) : ยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานท้องถิ่น
  • การประสานงานกับผู้เชี่ยวชาญอื่น ๆ : ทำงานร่วมกับวิศวกรโครงสร้าง, วิศวกรไฟฟ้า และผู้เชี่ยวชาญด้านอื่น ๆ เพื่อให้การออกแบบสมบูรณ์

6. การก่อสร้าง (Construction Administration)

  • การกำกับดูแลการก่อสร้าง : สถาปนิกอาจต้องตรวจสอบและควบคุมการก่อสร้างเพื่อให้เป็นไปตามแบบที่กำหนด
  • การปรับเปลี่ยนระหว่างการก่อสร้าง : หากเกิดปัญหาในพื้นที่จริง สถาปนิกจะปรับปรุงแบบเพื่อแก้ไขให้เหมาะสม

7. การตรวจสอบและส่งมอบ (Final Inspection & Handover)

  • การตรวจสอบงาน (Inspection) : ตรวจสอบคุณภาพงานก่อนส่งมอบให้ลูกค้า
  • การส่งมอบโครงการ : หลังจากตรวจสอบและแก้ไขงานทั้งหมดเสร็จสิ้น จะส่งมอบโครงการให้ลูกค้าอย่างเป็นทางการ

ข้อควรระวังกระบวนการออกแบบสถาปัตยกรรม

การออกแบบสถาปัตยกรรมมีความซับซ้อนและต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้โครงการสำเร็จอย่างราบรื่น ข้อควรระวังในแต่ละขั้นตอนมีดังนี้

  1. ความเข้าใจผิดในความต้องการของลูกค้า : ควรสอบถามรายละเอียดให้ชัดเจนว่าลูกค้าต้องการอะไร เช่น สไตล์, ฟังก์ชัน และงบประมาณ หากไม่เข้าใจตั้งแต่แรก อาจต้องปรับแก้แบบในภายหลังจนเกิดความล่าช้า
  2. การเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสม : เช่น วัสดุที่ไม่ทนต่อสภาพอากาศหรือไม่เหมาะสมกับการใช้งาน อาจส่งผลให้เกิดปัญหาในระยะยาว
  3. การมองข้ามระบบภายในอาคาร : เช่น ระบบไฟฟ้า, ระบบประปา หรือระบบระบายอากาศ อาจทำให้ต้องแก้ไขในภายหลังเมื่อก่อสร้างเสร็จ
  4. การเลือกโครงสร้างที่ซับซ้อนเกินไป : อาจเพิ่มต้นทุนและทำให้การก่อสร้างยุ่งยากโดยไม่จำเป็น
  5. การตรวจสอบงานไม่ละเอียด: อาจพลาดปัญหาเล็ก ๆ ที่ส่งผลต่อการใช้งานในอนาคต เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ที่ไม่สมบูรณ์

UPM DESIGN STUDIO เป็นบริษัทในเครือของ United Project Management ที่ให้บริการงานด้านสถาปัตยกรรม วิศวกรรมโครงสร้าง และวิศวกรรมงานระบบประกอบอาคาร ซึ่งหมายความว่าพวกเขาทำหน้าที่ในการออกแบบและวางแผนโครงสร้างของอาคารต่างๆ ตั้งแต่ขั้นตอนแรกจนถึงขั้นตอนสุดท้าย