พรีโมเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2568 มีรายได้รวม 574 ล้านบาท เติบโต 33% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้รายได้สะสม 9 เดือนอยู่ที่ 1,356 ล้านบาท และกำไรสุทธิอยู่ที่ 159 ล้านบาท

นายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่าผลการดำเนินงานของบริษัทในปีนี้สะท้อนถึงการมุ่งพัฒนาคุณภาพการบริการ และการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ โดยยังคงให้ความสำคัญกับการสร้างความยั่งยืนทั้งในด้านรายได้และความเชื่อมั่นของลูกค้า
สำหรับโครงสร้างธุรกิจ พรีโมบริหารงานภายใต้ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
- Engineering งานด้านวิศวกรรม การก่อสร้าง และที่ปรึกษาโครงการ
- Living Services การบริหารนิติบุคคลอาคารชุดและบ้านจัดสรร รวมถึงบริการเพื่อการอยู่อาศัย
- Brokerage งานซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ และบริการด้านการลงทุน
ในช่วงปลายปี พรีโมยังคงมุ่งขยายตลาด พร้อมพัฒนารูปแบบบริการแบบ All-in-One Service เพื่อให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้อยู่อาศัยและผู้พัฒนาโครงการ ตั้งแต่การซื้อขาย ดูแลโครงการ ไปจนถึงงานก่อสร้าง ซ่อมบำรุง และตกแต่งภายใน
หนึ่งในโอกาสที่เกิดขึ้นในปีนี้คือการให้บริการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ซึ่งบริษัทได้รับความไว้วางใจให้ดูแลลูกค้าเป็นจำนวนมาก นอกจากเป็นการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว ยังช่วยเสริมความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว
ด้านการขยายธุรกิจในจังหวัดภูเก็ต พรีโมเริ่มให้บริการในหลายด้าน ทั้งงานขายโครงการ งานบริหารนิติบุคคลระดับลักชัวรี่ งานบริหารห้องชุดสำหรับนักลงทุน และบริการงานช่างและความสะอาด เพื่อรองรับความต้องการในตลาดอสังหาฯ ที่มีศักยภาพทั้งจากผู้อยู่อาศัยและนักลงทุน
นายสุรินทร์กล่าวเพิ่มเติมว่า
“เรายังคงตั้งใจพัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก พรีโมจะยังคงทำงานด้วยความรอบคอบ มีวินัย และใส่ใจในรายละเอียด เพื่อให้การเติบโตในทุกด้านเป็นไปอย่างยั่งยืน”
พรีโมตั้งเป้ารายได้รวมปี 2568 ที่ 1,850 ล้านบาท และเชื่อมั่นว่ายังสามารถเดินหน้าตามแผนได้ภายใต้กลยุทธ์ Focus On Core — Optimize for Sustainable Growth

สำหรับ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ชั้นนำของประเทศ มีประสบการณ์กว่า 13 ปี ปัจจุบัน ดำเนินธุรกิจภายใต้ 3 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่
1.กลุ่มธุรกิจต้นน้ำ – บริการก่อนเข้าอยู่อาศัย (Pre-Living Services) ได้แก่ บริการให้คำปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างโครงการอสังหาฯ บริการออกแบบสถาปัตยกรรมงานวิศวกรรมโครงสร้างควบคุมการก่อสร้าง และบริการควบคุมการก่อสร้าง งานวิศวกรรมและการให้คำปรึกษาทางด้านเทคนิค
2.กลุ่มกลางน้ำ – บริการการจัดการเพื่อการอยู่อาศัย (Living Services) ได้แก่ บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า อาคาร และสำนักงาน บริการนิติบุคคลอาคารชุดแบบลักชัวรี่ การบริหารจัดการ Residential Property และ Service Apartment บริการซื้อ-ขาย-ปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ตัวแทนในการซื้อ-ขาย-เช่าบริการจัดหาผู้ร่วมลงทุน บริการที่ปรึกษาด้านสื่อการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้กับธุรกิจอสังหาฯ บริการ Personal Assistant ให้แก่ชาวต่างชาติ และบริการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการบริการ และเทคโนโลยีด้านการอยู่อาศัย
3.กลุ่มปลายน้ำ – บริการหลังการขายที่อยู่อาศัย (Living & Earning Services) ได้แก่ บริการออกแบบและตกแต่งภายใน บริการงานจ้าเหมาแบบเบ็ดเสร็จ บริการแม่บ้านทำความสะอาดและบริการงานช่างช่าง บริการจัดการอาคาร จัดจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านและที่อยู่อาศัย แบบ Lifestyle และนายหน้าประกันทั้งแบบ Life และ Non-Life


