ใครกำลังวางแผนรีไฟแนนซ์บ้าน หรือ คอนโด ต้องรู้ก่อนตัดสินใจว่าในการดำเนินการต้องมี ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน – คอนโดนะ แต่มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย
ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน คอนโด มีอะไรบ้าง ?
จะรีไฟแนนซ์ทั้งทีต้องรู้ว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ อย่างแน่นอน เพราะการรีไฟแนนซ์คือการที่เราขอลดดอกเบี้ยเพื่อไม่ให้ดอกเบี้ยลอยตัว ทำให้เราผ่อนน้อยลง จึงเกิด ค่าใช้จ่ายรีไฟแนนซ์บ้าน คอนโด เกิดขึ้น ดังนี้
1. ค่าประเมินราคาหลักประกัน ประมาณ 3,000 บาท
2. ค่าอากรแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้ใหม่
3. ค่าจดทะเบียนจำนองกับกรมที่ดิน 0.01% ของวงเงินกู้ใหม่ ค่าจดทะเบียนจำนองปกติคือ 1% แต่ปัจจุบันมีประกาศกระทรวงมหาดไทยกำหนดลดหย่อนค่าจดทะเบียนจำนองเหลือ 0.01% สำหรับลูกค้าที่จดทะเบียนจำนองภายในปี 2565 และวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท
4. ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย และค่าปรับจากการไถ่ถอนสินเชื่อก่อนครบกำหนด (Prepayment Fee)
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์บ้าน
- ตรวจสอบสัญญากู้ของตัวเอง ว่าเราสามารถรีไฟแนนซ์ได้เมื่อไหร่ (โดยส่วนมากจะอยู่ที่ 3 ปี)
- เลือกธนาคารที่ดีที่สุดสำหรับตัวเอง ถ้าเลือกดีๆ ได้ตัวที่ดอกเบี้ยถูกที่สุด จะประหยัดดอกเบี้ยได้หลักแสนเลยล่ะครับ
- เตรียมเอกสารประกอบการยื่นรีไฟแนนซ์ ประกอบด้วย เอกสารแสดงข้อมูลส่วนบุคคล, เอกสารแสดงรายได้, เอกสารด้านหลักประกัน
- ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ ซึ่งใช้เวลาพิจารณาอนุมัติประมาณ 2-4 สัปดาห์ หลังจากที่ยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ พร้อมส่งเอกสารเรียบร้อย
- สอบถามยอดหนี้คงเหลือ และนัดวันไถ่ถอนกับธนาคารเก่า เมื่อได้รับการอนุมัติจากธนาคารใหม่แล้ว
- ไปทำสัญญาและจำนองที่กรมที่ดิน โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่จะถือสัญญาไปให้เซ็นที่กรมที่ดิน พร้อมๆกับทำสัญญาจำนองที่กรมที่ดินในวันเดียวกันเลยครับ
ข้อดีของการรีไฟแนนซ์ (Refinance)
1. ประหยัดดอกเบี้ย
เพราะการรีไฟแนนซ์บ้าน คือการย้ายสินเชื่อจากธนาคารหรือสถาบันการเงินเดิม ไปธนาคารใหม่ที่ให้ดอกเบี้ยดีกว่า ต่ำกว่าเดิม ดอกเบี้ยถูกลงอย่างเห็นได้ชัด กล่าวคือ ถ้าดอกเบี้ยลด 1% สำหรับยอดสินเชื่อ 1 ล้านบาท การรีไฟแนนซ์จะช่วยให้คุณ ประหยัดเงินถึง 10,000 บาทต่อปี
2. ช่วยลดค่างวดต่อเดือน
การรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยให้คุณจ่ายค่างวดต่อเดือนน้อยลง แต่หากคุณมีกำลังผ่อน เราแนะนำให้คุณทำผ่อนจ่ายค่างวดจำนวนเท่าเดิมจะเป็นการดีกว่า เพราะเงินที่จ่ายไปจะไปตัดเงินต้นเยอะขึ้น ทำให้ระยะเวลาผ่อนน้อยลง ช่วยให้คุณเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น
3. ได้รับโปรโมชั่นพิเศษ
โดยปกติแล้ว โปรแกรมรีไฟแนนซ์บ้าน มักจะมาพร้อมกับโปรโมชั่นพิเศษ เช่น ฟรี ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัย 3 ปี ซึ่งปกติค่าเบี้ยจะคำนวนจากค่าบ้าน ซึ่งต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันประมาณล้านละ 1,000 บาท
รีไฟแนนซ์อย่างไรให้มีกำไรคุ้มค่า
1. เปรียบเทียบเงื่อนไขของธนาคารต่าง ๆ
เนื่องจากกฎเกณฑ์ของแต่ละธนาคารไม่เหมือนกัน ประเด็นหลักที่ต้องพิจารณาคือ อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อที่จะรีไฟแนนซ์จะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน รวมทั้งเงื่อนไขเรื่องจำนวนเงินผ่อนต่องวดที่ลดลงและระยะเวลาการผ่อนชำระที่นานขึ้น เพื่อคำนวณว่าจะช่วยลดภาระดอกเบี้ยให้เรามากขนาดไหน
2.สำรวจค่าใช้จ่ายอื่น ๆ
การรีไฟแนนซ์ก็คล้ายกับการขอสินเชื่อใหม่ ดังนั้นเราก็จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในกระบวนการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจดจำนองหลักประกัน 1% ของวงเงินกู้ การประเมินมูลค่าหลักประกัน การทำประกันอัคคีภัย ซึ่งหลาย ๆ ธนาคารก็มักจะยื่นข้อเสนอประเภทฟรีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เพื่อจูงใจให้ตัดสินใจเลือกรีไฟแนนซ์ด้วย ที่สำคัญคือ ต้องตรวจสอบเงื่อนไขการไถ่ถอนสินเชื่อจากธนาคารเดิมด้วยว่า กำหนดให้สามารถรีไฟแนนซ์ได้ตั้งแต่ปีที่เท่าไรของการกู้ เพราะถ้าผิดเงื่อนไข จะต้องจ่ายค่าปรับการไถ่ถอนก่อนกำหนดด้วย
3.ตัดสินใจว่าจะรีไฟแนนซ์หรือไม่
หลังจากได้ข้อมูลแหล่งเงินกู้ที่ให้อัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดแล้ว ก็ต้องวิเคราะห์เพื่อตัดสินใจ โดยนำค่าใช้จ่ายทั้งหมดมาเปรียบเทียบกับจำนวนดอกเบี้ยทั้งหมดที่เราจะประหยัดไปได้ หากดูแล้วคุ้มค่าต่อการรีไฟแนนซ์ ก็ติดต่อธนาคารและดำเนินการตามขั้นตอนได้เลย ถ้าต้องการวงเงินสินเชื่อรีไฟแนนซ์สูงกว่ายอดสินเชื่อคงเหลือเดิม ให้ลองยื่นเอกสารกับธนาคารเป้าหมายอย่างน้อย 3 แห่งขึ้นไป จากนั้นเลือกรีไฟแนนซ์กับธนาคารที่ให้วงเงินสูงที่สุด ภายใต้เงื่อนไขการผ่อนชำระและค่าธรรมเนียมที่ใกล้เคียงกัน
หลังจากผ่อนบ้านจนครบกำหนดเวลาขั้นต่ำตามสัญญาเงินกู้แล้ว เรามีโอกาสและมีสิทธิในการตัดสินใจในเรื่องการรีไฟแนนซ์ อย่างไรก็ตาม เราต้องเปรียบเทียบรายละเอียดเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ดี เพราะไม่ได้มีแค่เรื่องของดอกเบี้ยที่ถูกลงเท่านั้น ยังมีเรื่องค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นซึ่งเราจะต้องคำนวณความคุ้มค่าก่อนตัดสินใจทุกครั้ง
แต่ถ้าคำนวณแล้วเงินที่ประหยัดดอกเบี้ยไปไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียเวลา ก็ควรเลือกชำระเงินกู้กับธนาคารเดิมจนหมดสัญญาดีกว่า
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก
𝐏𝐫𝐢𝐦𝐨 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞 𝐒𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬
เป็นผู้นำในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรและกำกับดูแลกิจการในกลุ่มบริษัทในเครือ ให้พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาและลงทุนในธุรกิจสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞𝐬, 𝐇𝐚𝐩𝐩𝐲 𝐌𝐚𝐤𝐞𝐫
Tel : 02-0810000
Website: https://primo.co.th/
Line : https://lin.ee/Jt3nhkF