การ ยืนยันตัวตน e-KYC คืออะไร ? อัปเดต 2566

ยืนยันตัวตน e-KYC

การ ยืนยันตัวตน e-KYC คืออะไร ? คงเป็นคำถามที่หลายๆ คนยังไม่รู้ หรือกำลังหาคำตอบอยู่ วันนี้เราได้รวบรวมมาให้แล้วไปดูกันได้เลย

ยืนยันตัวตน e-KYC คืออะไร ? 2566

KYC ย่อมาจากคำว่า “Know Your Customer” หรือ “เข้าใจลูกค้าของคุณ” เป็นกระบวนการที่องค์กรหรือธนาคารใช้ในการตรวจสอบและรู้จักลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับตัวตน ความเป็นจริง และกิจกรรมทางการเงินของลูกค้าก่อนที่จะดำเนินการทางธุรกิจ

โดยกระบวนการ KYC ช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันการฟ้องร้องที่เกี่ยวข้องกับการฟอกเงินและการทุจริตทางการเงินได้ โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนตัวของลูกค้า เช่น ชื่อ-นามสกุลจริง ที่อยู่ วันเกิด หมายเลขประจำตัวประชาชน และเอกสารประกอบอื่น ๆ เพื่อทำการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของข้อมูลลูกค้า

E-KYC คือ ?

E-KYC ย่อมาจาก Electronic Know-Your-Customer คือ การยื่นยันตัวบุคคลผ่านช่องทาง Electronic ผ่านอัตลักษณ์ของเรา เช่น ลายนิ้วมือ เสียง ม่านตา ใบหน้า เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันได้ถูกใช้อยู่ 3 แบบ ด้วยกัน ดังนี้

  • Biometric Authentication การยืนยันตัวตนที่หลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกันมากที่สุด โดยส่วนใหญ่มักใช้เพื่อการพิสูจน์ตัวตนในการเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะอาศัยข้อมูลทางชีวมิติ (Biometric) เช่น ลายนิ้วมือ ใบหน้า หรือม่านตา เป็นต้น ที่พบเห็นกันได้บ่อยๆ ก็อาจเป็นการเข้าแอปฯ Mobile Banking ผ่านการสแกนลายนิ้วมือ ทำให้ไม่จำเป็นต้องกรอกรหัสผ่าน (PIN) ทุกครั้งนั่นเอง
  • Optical Character Recognition (OCR) OCR คือ ระบบที่มีความสามารถในการอ่านข้อความจากเอกสาร ไฟล์ PDF หรือไฟล์รูปภาพ บัตรประชาชน หรือแม้กระทั่งลายมือบนเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และแปลงข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบของดิจิทัล เพื่อทำการ Auto Fill In จากนั้นก็นำข้อมูลไปประมวลผลและยืนยันตัวตนของผู้ใช้บริการ ช่วยลดเวลาในการกรอกข้อมูล และทำให้การทำรายการหรือธุรกรรมรวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ หากเป็นธุรกรรมบางประเภทที่มีความเสี่ยงข้างสูง ผู้ให้บริการบางรายอาจจะใช้ OCR ร่วมกับระบบ AI โดยให้ลูกค้าถ่ายภาพใบหน้าของตัวเอง เพื่อนำมาตรวจสอบกับรูปหน้าบัตรประชาชน
  • National Digital ID (NDID) NDID คือ แพลตฟอร์มในการยืนยันตัวตนรูปแบบดิจิทัล ที่สามารถตรวจสอบผู้ใช้บริการในเครือข่ายดิจิทัลได้ โดยส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจธนาคารที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งาน NDID ซึ่งลูกค้าสามารถที่จะกรอกข้อมูล ถ่ายรูปบัตรประชาชน และเก็บข้อมูลชีวมิติ ผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้เลย

นอกจากการยืนยันตัวตนที่ได้รับความนิยมที่กล่าวไปข้างต้น ยังมีอีกหลากหลายวิธีที่ธุรกิจสามารถทำได้ อาทิ VDO conference ยืนยันตัวตนทางไกลแบบ Face-To-Face กับเจ้าหน้าที่ หรือการตรวจสอบตัวเลขหลังบัตรประชาชนกับฐานข้อมูลของกรมการปกครอง (DOPA) เพื่อยืนยันตัวตน

ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้ให้บริการ Online e-KYC Company Thailand เพิ่มมากขึ้น จึงทำให้มีวิธีการยืนยันตัวตนลูกค้าแบบใหม่ที่ทั้งสะดวกและปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม

E-KYC มีมาตรฐาน ดังนี้

Identity ที่ได้รับการยอมรับในการเป็นตัวแทนบุคคลได้ เช่น เลขประจำตัว ชื่อบุคคล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด อีเมล หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ภาพใบหน้า หรือข้อมูลระบุอุปกรณ์ที่บุคคลใช้งาน

ส่วน Identity สำหรับนิติบุคคล เช่น เลขทะเบียนนิติบุคคล ชื่อนิติบุคคล ที่ตั้งสำนักงานใหญ่ หรือ ชื่อกรรมการนิติบุคคล

สิ่งที่ใช้ยืนยันตัวตน authenticator หมายถึง สิ่งที่บุคคลครอบครองและควบคุมเพื่อใช้ในการยืนยันตัวตน ประกอบด้วย

  • something you know สิ่งที่เรารู้อยู่คนเดียว เช่น Password
  • something you have สิ่งที่เรามี เช่น บัตรประชาชน Token USB
  • something you are สิ่งที่เราเป็น เช่น ลายนิ้วมือ

เปรียบเทียบ KYC กับ E-KYC แตกต่างกันอย่างไร ?

KYCE-KYC
ต้องเดินทางไปยืนยันตัวตนที่สาขาเท่านั้นสามารถยืนยันตัวตนแบบออนไลน์
และทำได้ทุกที่
ต้องกรอกข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเองระบบสามารถดึงข้อมูล และกรอกแบบอัตโนมัติ 
เพียงถ่ายรูปบัตรประชาชน
ต้องแสดงตัวตนต่อหน้าเจ้าหน้าที่สามารถแสดงตัวตนด้วยการเซลฟี่
ผ่านหน้าจอมือถือ
ตรวจสอบข้อมูลของลูกค้า และเปรียบเทียบกับข้อมูล
จากเอกสารประจำตัวด้วยพนักงานหลายคน
เปรียบเทียบข้อมูลลูกค้ากับบัตรประชาชน
แบบ Automation ด้วยระบบ AI
ใช้เวลาดำเนินการโดยเฉลี่ยครึ่งวันทำการใช้เวลาดำเนินการทั้งหมดเฉลี่ย 3 นาที
ให้บริการได้เฉพาะวันทำการให้บริการทุกวัน 24 ชั่วโมง

ประโยชน์ของ E-KYC

1. ความสะดวกรวดเร็ว

การใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์ในกระบวนการ E-KYC ทำให้เก็บรวบรวมข้อมูลและยืนยันตัวตนของลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย ลูกค้าสามารถกรอกข้อมูลและส่งเอกสารผ่านช่องทางออนไลน์ได้โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงสถานที่ต่างๆ

2. ลดการกระจายข้อมูลที่ไม่จำเป็น

การใช้ E-KYC ช่วยลดการกระจายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่จำเป็น เนื่องจากลูกค้าสามารถส่งเอกสารและข้อมูลอย่างปลอดภัยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ไม่ต้องมีการเก็บสำเนาเอกสารหรือข้อมูลที่ไม่จำเป็นเก็บไว้ในรูปแบบเอกสารกระดาษ

3. ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ

การใช้เทคโนโลยีในกระบวนการ E-KYC ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากข้อผิดพลาดทางมนุษย์ การตรวจสอบข้อมูลอัตโนมัติและการสร้างระบบตรวจสอบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยให้ข้อมูลที่ได้รับเป็นน่าเชื่อถือและถูกต้อง

4. ประหยัดทรัพยากร

การใช้ E-KYC ช่วยลดการใช้ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการ KYC ที่เป็นแบบดั้งเดิม เช่น กระดาษ เครื่องพิมพ์ เวลา และค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ

5. ความปลอดภัยข้อมูล

การใช้ E-KYC ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่ส่งผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ถูกเข้ารหัสและรักษาความลับอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เหมาะสมหรือการโจมตีทางไซเบอร์ได้

อ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติม คลิกที่นี่

—————————–

𝐏𝐫𝐢𝐦𝐨 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞 𝐒𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬

เป็นผู้นำในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรและกำกับดูแลกิจการในกลุ่มบริษัทในเครือ ให้พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาและลงทุนในธุรกิจสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞𝐬, 𝐇𝐚𝐩𝐩𝐲 𝐌𝐚𝐤𝐞𝐫

📱 Tel : 02-0810000

🌏 Website: https://primo.co.th/

📶 Line : https://lin.ee/Jt3nhkF