ในปี พ.ศ. 2568 นี้ ปัญหาอาชญากรรมทางการเงินบนโลกออนไลน์ยังคงเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงและซับซ้อนยิ่งขึ้น หนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่เหล่ามิจฉาชีพใช้เพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบคือ “บัญชีม้า” หรือบัญชีธนาคารที่ถูกนำไปใช้เพื่อรับ–โอนเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย ข้อมูลล่าสุดจากหน่วยงานกำกับดูแลระบุว่า แม้จะมีการปราบปรามอย่างต่อเนื่อง แต่จำนวนบัญชีม้ากลับไม่ได้ลดลงอย่างที่ควรจะเป็น เนื่องจากรูปแบบการหลอกลวงที่แนบเนียนและเข้าถึงประชาชนได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย
หลายคนอาจคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องไกลตัว แต่ในความเป็นจริงแล้ว บัญชีม้าเป็นภัยที่แฝงตัวอยู่ใกล้กว่าที่คิด ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษาที่กำลังมองหารายได้เสริม พนักงานประจำที่กำลังลำบากเรื่องการเงิน หรือแม้แต่ผู้สูงอายุที่ขาดความรู้ด้านเทคโนโลยี ทุกคนล้วนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อได้โดยไม่รู้ตัว บางกรณี เพียงแค่ให้เช่าบัญชีโดยหวังรายได้เล็กน้อย ก็ต้องเผชิญกับโทษทางกฎหมายที่ร้ายแรง ทั้งจำคุกและปรับ หรือร้ายแรงกว่านั้นคือการถูกขึ้นบัญชีดำจากสถาบันการเงิน ทำให้ชีวิตต้องหยุดชะงักและไม่สามารถทำธุรกรรมได้ตามปกติ

บัญชีม้า คืออะไร? และทำไมจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือของอาชญากรรม?
คำว่า “บัญชีม้า” หมายถึง บัญชีธนาคารของบุคคลอื่นที่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการรับและโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การหลอกลวงออนไลน์ การฟอกเงิน การพนัน หรือคดีแชร์ลูกโซ่ อาชญากรใช้บัญชีเหล่านี้เพื่ออำพรางเส้นทางการเงิน ทำให้การแกะรอยและจับกุมยากขึ้น
ที่มาของคำว่า “ม้า” ในภาษาไทยนั้นมาจากการเปรียบเทียบผู้ที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลางให้ผู้อื่น โดยเปรียบเหมือนม้าที่ถูกควบคุมให้วิ่งไปตามเส้นทางที่เจ้าของต้องการ เจ้าของบัญชีม้าก็เช่นเดียวกัน พวกเขาเป็นเพียง “ผู้รับจ้าง” หรือ “ผู้ถูกหลอก” ที่แทบไม่มีสิทธิ์ควบคุมว่าเงินที่ไหลเข้าออกในบัญชีของตนจะถูกใช้ไปทำอะไรบ้าง ซึ่งบัญชีม้าแต่ละบัญชีจะมีอายุการใช้งานที่สั้นมาก เมื่อถูกใช้แล้วก็จะถูกทิ้งไป เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ และมิจฉาชีพก็จะหาบัญชีม้าใหม่มาใช้แทนที่อย่างต่อเนื่อง
กลไกการทำงานของบัญชีม้า: วงจรอาชญากรรมที่มองไม่เห็น
บัญชีม้าไม่ได้ทำงานอย่างโดดเดี่ยว แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายอาชญากรรมที่ซับซ้อน โดยทั่วไปแล้ว วงจรการทำงานของบัญชีม้าจะมีขั้นตอนดังนี้:
- การหลอกลวง (Initial Scam): เริ่มต้นจากมิจฉาชีพใช้กลโกงต่างๆ เช่น แก๊งคอลเซ็นเตอร์, การหลอกลงทุน, เว็บไซต์พนันออนไลน์ หรือแม้แต่การหลอกขายสินค้าออนไลน์ เพื่อหลอกให้เหยื่อโอนเงิน
- การโอนเงินเข้าบัญชีม้า (First-level transfer): เหยื่อจะโอนเงินที่ถูกหลอกไปยัง “บัญชีม้าตัวแรก” ซึ่งเป็นบัญชีที่เปิดขึ้นใหม่และยังไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน
- การโอนเงินต่อเป็นทอดๆ (Layering): จากนั้นเงินจะถูกโอนต่อไปยัง “บัญชีม้าลำดับที่สองและสาม” อย่างรวดเร็วเป็นทอดๆ เพื่อให้ยากต่อการติดตาม โดยอาจมีการโอนเงินไปยังบัญชีของกลุ่มคนจำนวนมาก ทำให้เส้นทางการเงินซับซ้อนยิ่งขึ้น
- การถอนเงินสด (Cash-out): ในขั้นตอนสุดท้าย เงินจะถูกถอนออกจากบัญชีม้าในรูปแบบของเงินสด หรือเปลี่ยนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น คริปโตเคอร์เรนซี เพื่อฟอกเงินและนำไปใช้จ่าย ซึ่งในขั้นตอนนี้เองที่เงินที่ได้จากการกระทำผิดกฎหมายได้ถูกนำออกจากระบบธนาคารแล้วอย่างสมบูรณ์
การแบ่งระดับ “บัญชีม้า 5 สี” ฉบับปี 2568
เพื่อให้ประชาชนและสถาบันการเงินสามารถรับรู้และประเมินความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนเพื่อกำหนดการแบ่งระดับความเสี่ยงของบัญชีม้าออกเป็น 5 ระดับ ซึ่งเปรียบเหมือน “ไฟเตือน” ที่ช่วยให้เราระมัดระวังได้ทันท่วงที
- ม้าดำ (ระดับร้ายแรงที่สุด): บัญชีที่มีข้อมูลชัดเจนจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) หรือหน่วยงานรัฐว่ามีความเกี่ยวข้องกับการฟอกเงินหรืออาชญากรรมร้ายแรง มีพฤติกรรมโอนเงินที่ผิดปกติอย่างรุนแรง และถูกใช้เป็นตัวการหลักในการเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมาย
- ม้าเทาเข้ม (ระดับความเสี่ยงสูง): บัญชีที่มีผู้เสียหายยืนยันอย่างชัดเจนว่ามีการโอนเงินที่ผิดปกติเข้ามา มีพฤติกรรมโอนเงินจำนวนมากแบบไม่สมเหตุสมผลและสอดคล้องกับพฤติกรรมของมิจฉาชีพ
- ม้าเทา (ระดับความเสี่ยงปานกลาง): บัญชีที่มีรายงานหรือเบาะแสจากผู้เสียหาย แต่ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลจากธนาคารหรือหน่วยงานรัฐ
- ม้าน้ำตาลเข้ม (ระดับความเสี่ยงเฝ้าระวัง): บัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมที่ผิดปกติอย่างชัดเจน แต่ยังไม่มีการแจ้งความจากผู้เสียหาย มีแนวโน้มสูงที่จะเป็นบัญชีม้า
- ม้าน้ำตาลอ่อน (ระดับเริ่มต้นเฝ้าระวัง): บัญชีที่มีการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติแต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นอาชญากรรม เช่น การโอนเงินเข้า-ออกถี่ผิดปกติ หรือมีธุรกรรมจากบัญชีม้าในกลุ่มอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง
โทษทางกฎหมายที่ร้ายแรงกว่าที่คิด
การเปิดหรือให้ผู้อื่นยืมบัญชีธนาคารไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีโทษร้ายแรงตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ดังนี้:
- โทษจำคุก: สูงสุดไม่เกิน 3 ปี
- โทษปรับ: ไม่เกิน 300,000 บาท
- ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน: นอกจากโทษทางอาญาแล้ว ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้ายังต้องเผชิญกับผลกระทบระยะยาว เช่น การถูกขึ้นบัญชีดำจากสถาบันการเงิน ทำให้ไม่สามารถกู้ยืมเงิน, เปิดบัญชีใหม่, ขอสินเชื่อ, หรือใช้บริการทางการเงินใดๆ ได้อีกในอนาคต ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการใช้ชีวิต
กลโกงยอดนิยมที่ใช้บัญชีม้าในปี 2568
ในปี 2568 รูปแบบการหลอกลวงได้วิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว ทำให้การระมัดระวังตัวเองเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง นี่คือตัวอย่างกลโกงที่พบบ่อย
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ (Call Center Scams): แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สรรพากร หรือเจ้าหน้าที่จากบริษัทขนส่ง หลอกให้เหยื่อเกิดความกลัวและโอนเงินเพื่อตรวจสอบหรือแก้ปัญหาปลอมๆ
- หลอกลงทุนออนไลน์ปลอม (Fake Investment Schemes): สร้างเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันปลอม หลอกให้เหยื่อลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง โดยใช้บัญชีม้าเป็นตัวกลางรับเงิน ก่อนปิดเว็บหนี
- พนันออนไลน์ (Online Gambling): ใช้บัญชีม้าจำนวนมากในการรับและโอนเงินจากผู้เล่นที่ผิดกฎหมาย เพื่อซุกซ่อนเส้นทางการเงินและหลีกเลี่ยงการจับกุม
- หลอกให้ทำงานออนไลน์ (Online Job Scams): โฆษณาหางานง่ายๆ รายได้ดี เช่น การกดไลค์สินค้า หรือแพ็คของออนไลน์ แต่มีเงื่อนไขให้โอนเงินค่ามัดจำหรือค่าธรรมเนียมก่อน ซึ่งเงินจะถูกโอนเข้าบัญชีม้าทันที
สัญญาณเตือนภัย: วิธีสังเกตว่าบัญชีของคุณอาจถูกใช้เป็น “บัญชีม้า”
แม้ว่าคุณจะไม่ได้ตั้งใจ แต่บัญชีของคุณอาจตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพได้ หากคุณพบว่าบัญชีของคุณมีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ ควรรีบตรวจสอบและแจ้งธนาคารทันที
- มีเงินโอนเข้า-ออกถี่และจำนวนน้อยๆ: พบการโอนเงินจำนวนน้อยๆ เข้ามาในบัญชีหลายครั้งจากบุคคลที่ไม่รู้จัก และถูกโอนออกไปอย่างรวดเร็ว
- มีเงินโอนเข้ามาผิดปกติ: ได้รับเงินโอนเข้ามาจากบัญชีที่ไม่คุ้นเคยโดยไม่มีเหตุผล และอาจมีข้อความแปลกๆ แนบมา
- การแจ้งเตือนจากธนาคาร: ได้รับการแจ้งเตือนจากธนาคารเรื่องพฤติกรรมการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ หรือบัญชีของคุณถูกระงับชั่วคราว
มาตรการป้องกันตนเองที่ต้องทำทันที
- อย่าเปิดบัญชีแทนผู้อื่นเด็ดขาด: ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน, คนรู้จัก, หรือแม้แต่คนในครอบครัวที่อ้างว่า “เปิดบัญชีไม่ได้” เพราะคุณกำลังทำผิดกฎหมายอย่างร้ายแรง
- ระวังการให้ข้อมูลส่วนตัว: อย่ามอบบัตรประชาชนหรือข้อมูลส่วนตัวให้กับคนแปลกหน้า รวมถึงการถ่ายรูปคู่กับบัตรประชาชน เพราะอาจถูกนำไปใช้เปิดบัญชีม้าได้
- ตรวจสอบการเคลื่อนไหวของบัญชี: หมั่นตรวจสอบยอดเงินและรายการเดินบัญชีของคุณอย่างสม่ำเสมอ หากพบความผิดปกติควรรีบแจ้งธนาคาร
- ติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอ: ติดตามคำเตือนจากธนาคารแห่งประเทศไทย, กองบัญชาการตำรวจไซเบอร์, และหน่วยงานรัฐอื่นๆ เพื่อรู้เท่าทันกลโกงรูปแบบใหม่ๆ
หากตกเป็นเหยื่อแล้วต้องทำอย่างไร?
การจัดการอย่างรวดเร็วคือสิ่งสำคัญที่สุด หากคุณพบว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของบัญชีม้า หรือบัญชีของคุณถูกนำไปใช้โดยไม่รู้ตัว ให้ดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้ทันที
- ติดต่อธนาคาร: โทรหาธนาคารเจ้าของบัญชีทันที เพื่อแจ้งระงับบัญชีเป็นการชั่วคราวและขอคำแนะนำในการดำเนินการต่อไป
- แจ้งความ: รวบรวมหลักฐานทั้งหมด เช่น สมุดบัญชี, บันทึกการสนทนา, หรือข้อมูลการโอนเงิน แล้วเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ
- ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่: ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- ติดตามเรื่อง: ติดตามความคืบหน้าจากเจ้าหน้าที่ธนาคารและตำรวจอย่างสม่ำเสมอ จนกว่าเรื่องจะได้รับการแก้ไขอย่างชัดเจน
บัญชีม้า 2568 ภัยใกล้ตัวที่ต้องระวัง
ภัยจาก บัญชีม้า 2568 ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนมีโอกาสตกเป็นเหยื่อได้หากขาดความรู้และการระวังตัว การรู้เท่าทันกลโกง, เข้าใจถึงโทษทางกฎหมายที่ร้ายแรง และทราบถึงขั้นตอนการป้องกันและรับมืออย่างทันท่วงที จะช่วยให้คุณและคนรอบข้างปลอดภัยจากอาชญากรรมทางการเงินบนโลกออนไลน์ได้มากขึ้น
จำไว้ว่า… อย่าให้ใครยืมบัญชีธนาคารเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ เพราะอาจเปลี่ยนชีวิตคุณจากผู้บริสุทธิ์เป็นผู้กระทำผิดในชั่วข้ามคืนได้อย่างที่คุณไม่คาดคิด
𝐏𝐫𝐢𝐦𝐨 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞 𝐒𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬
เป็นผู้นำในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรและกำกับดูแลกิจการในกลุ่มบริษัทในเครือ ให้พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาและลงทุนในธุรกิจสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
FocusOnCore OptimizeForSustainableGrowth , 𝐇𝐚𝐩𝐩𝐲 𝐌𝐚𝐤𝐞𝐫
Tel : 02-0810000
Website: https://primo.co.th/
Line : https://lin.ee/Jt3nhkF