กินเจ กินอะไรได้ บ้าง อัปเดต 2566

กินเจ กินอะไรได้

กินเจ กินอะไรได้ บ้าง เป็นคำถามที่คนกินเจกำลังหาคำตอบว่าตัวเองถ้ากินเจแล้ว กินอะไรได้บ้าง วันนี้เราจึงได้รวบรวมมาให้แล้ว เอาใจคนกินเจแบบสุดๆ มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย กินเจ กินอะไรได้ บ้าง อัปเดต 2566

กินเจ 2566 เริ่มวันไหน

ลกินเจ 2566 เริ่มวันที่ 15-23 ตุลาคม 2566 รวมเป็นเวลา 9 วัน บางท่านอาจจะล้างท้องตั้งแต่วันที่  14 ตุลาคมในมื้อเย็น รวมเป็น 10 วัน

กินเจ อัปเดต 2566

ใกล้เทศกาลกินเจ 2566 เข้ามาทุกที โดยในปีนี้เทศกาลกินเจจะถูกจัดขึ้นในวันที่ 15-23 ตุลาคม โดยสำหรับผู้ที่ตั้งใจล้างท้องต้องเริ่มก่อน 1-2 วันนั้นก็คือ ช่วงวันทรา 13-14 ตุลาคม

วันนี้ ขอนำ Checklist อาหารเจ ว่าในช่วงเทศกาลกินเจนั้น กินอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง มาฝากทุกคนที่มีความตั้งใจที่จะกินเจ หรือที่ต้องการดูแลสุขภาพ มีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

คนกินเจจะถือศีลและไม่กินอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนผสม อาหารเจจึงเป็นอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์ หรือส่วนผสมใด ๆ ที่มาจากเนื้อสัตว์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นกระดูกหรือไขมันก็ตาม

จึงมีคำกล่าวว่า “กินเจหนึ่งมื้อ หมื่นชีวิตรอดตาย” โดยผู้คนจะหันมากิน ผัก แป้ง หรือเต้าหู้แทน นอกจากเนื้อสัตว์ที่ต้องงดเว้นแล้ว ในช่วงเทศกาลการกินเจยังต้องงดผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง ได้แก่ กระเทียม หอม หลักเกียว (คล้าย ๆ หัวกระเทียมโทน) กุยช่าย และยาสูบ 

จุดประสงค์ของการกินเจ

1. กินเพื่อจิตเมตตา

อาหารที่เรากินตามปกติในแต่ละวันส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยเนื้อสัตว์ของสรรพสัตว์ ดังนั้นผู้กินอาหารเจจึงมีจิตเมตตาพร้อมที่จะละเว้นการกินเนื้อของสัตว์เหล่านั้นได้

2. กินเพื่อลดสร้างกรรม

แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็นคนลงมือฆ่าสัตว์เพื่อนำมาเป็นอาหารเอง แต่การซื้อเนื้อสัตว์จากคนอื่นก็เปรียบเสมือนกับจ้างฆ่าหรือสร้างกรรมอีกทางหนึ่ง ผู้กินเจจึงหันมากินเจเพื่อลดการฆ่าสัตว์โดยไม่เห็นแก่ความอร่อยให้อิ่มเอม

3. กินเพื่อสุขภาพ

การกินอาหารเจอย่างต่อเนื่องจะช่วยรักษาสมดุลแก่ร่างกาย ขับพิษและของเสียต่าง ๆ ที่ตกค้างในร่างกาย ทำให้อวัยวะภายในสะอาดและปรับระบบต่าง ๆ ให้ทำงานเสถียรมีประสิทธิภาพ

กินเจ กินอะไรได้ บ้าง ?

โปรตีนจากพืช

สำหรับโปรตีนสามารถเลือกรับประทานโปรตีนจากพืชได้ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีนเกษตร นมถั่วเหลือง เต้าหู้ขาว ธัญพืชและถั่ว ที่นำมาปรุงอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ

คาร์โบไฮเดรตจากพืช

สำหรับคาร์โบไฮเดรตสามารถเลือกวัตถุดิบที่มีคาร์โบไฮเดรตได้หลากหลายชนิด โดยเฉพาะจากเมนูเส้น ข้าว อาทิ เส้นหมี่ เส้นก๋วยเตี๋ยว เผือกทอด เต้าหู้ทอด ปอเปี๊ยะทอด เป็นต้น

ผักและผลไม้ทุกชนิด

ผลไม้สามารถทานได้ทุกชนิดในช่วงเทศกาลกินเจ รวมถึงทุเรียนที่หลายคนอาจมองว่าเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นฉุน แต่ความจริงแล้วสามารถทานได้โดยไม่มีข้อกินได้ทุกชนิดและสำหรับประเภทของผักกินได้เกือบทุกชนิด ยกเว้นผัก 5 ชนิดข้างต้น

ไขมันจากพืช

สำหรับไขมันสามารถเลือกทานไขมันจากพืชได้หลากหลายชนิดทั้ง น้ำมันพืช น้ำมันมะกอก น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันอโวคาโด และอื่น ๆ อีกมากมาย

เครื่องปรุงเจ

สำหรับเครื่องปรุงในการทำอาหารเจนั้นมีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นน้ำตาล เกลือ พริกไทย ในส่วนของซอสปรุงรสก็มีหลากหลาย อาทิ ซีอิ๊วเจ ซอสเห็ดหอม และอื่น ๆ ที่เป็นสูตรเจโดยเฉพาะ

นอกจากนี้ ยังมี

ชา กาแฟ ที่ไม่ใส่นม เนย หรือครีมเทียม
วิตามินเสริมอัดเม็ด ที่ไม่มีสารสกัดจากสัตว์
ขนมกรุบกรอบ ที่ไม่มีส่วนผสมของสัตว์
พริกไทย เป็นสมุนไพร (แต่หากรู้สึกว่ามีกลิ่นฉุน สามารถเลี่ยงได้)
ขนมปัง (ที่เป็นขนมปังเจ หรือไม่มีส่วนผสมของนม)
มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป (สูตรเจเท่านั้น)
และสามารถ แต่งหน้า และฉีดน้ำหอม (สำหรับคนถือศีล 5 หากถือศีล 8 จะทำไม่ได้)

กินเจ กินอะไรไม่ได้ ?

  1. ห้ามทานเนื้อสัตว์ และห้ามทำอันตรายต่อสัตว์
  2. ผักที่มีกลิ่นฉุน 5 อย่าง ได้แก่ กระเทียม (ไม่ดีต่อหัวใจ), หอมใหญ่ แดง ขาว ต้นหอม (ไม่ดีต่อไต), หลักเกียว ผักของจีน มีลักษณะคล้ายกระเทียมโทน (ไม่ดีต่อม้าม), กุยช่าย (ไม่ดีต่อตับ) และ ใบยาสูบ (ไม่ดีต่อปอดเมื่อใช้สูบ) นอกจากนี้ผักชนิดไหนที่มีกลิ่นฉุนก็ไม่ควรทานระหว่างช่วงกินเจด้วย
  3. นม เนย น้ำมัน และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
  4. อาหารรสจัด ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัด
  5. เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  6. ใครที่กินเจจริงจัง ห้ามทานอาหารบนภาชนะที่ใช้ร่วมกับผู้ที่ไม่ได้กินเจ และต้องทานอาหารที่ปรุงจากคนที่กินเจด้วยกันเท่านั้น

นอกจากนี้ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร ได้ให้ข้อมูลว่า “ประเพณีท้องถิ่นในประเทศไทย” ได้อธิบายถึงข้อห้ามอีกอย่างในการ “กินเจ” อย่างเคร่งครัด นั่นคือ ต้องงดบริโภคผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด เนื่องจากตามความเชื่อของชาวจีนฮกเกี้ยน ซัวเถา (ต้นกำเนิดประเพณีถือศีลกินผักในไทย) เชื่อว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดนี้จะไปทำลายธาตุทั้งห้าในร่างกาย ได้แก่ 

– กระเทียม : ทำลายธาตุไฟ ทำให้หัวใจทำงานไม่ปกติ

– หอมใหญ่ หอมแดง ต้นหอม : ทำลายธาตุน้ำ ทำให้ไตทำงานไม่ปกติ

– กุยช่าย : ทำลายธาตุไม้ ทำให้ตับทำงานไม่ปกติ

– หลักเกียว (คล้ายกระเทียมโทน) : ทำลายธาตุดิน ทำให้ม้ามทำงานไม่ปกติ

-ใบยาสูบ (สูบบุหรี่) : ทำลายธาตุโลหะ ทำให้ปอดทำงานไม่ปกติ

ส่วนในทางการแพทย์พบว่าผักกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิดนี้ มีคุณสมบัติช่วยย่อยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ทำให้ระบบย่อยอาหารไม่ต้องทำงานหนักเกินไป แต่ในช่วงกินเจที่งดกินเนื้อสัตว์ หากกินผักเหล่านี้มากๆ ก็อาจระคายเคืองกระเพาะอาหาร และยังส่งผลต่อฮอร์โมนร่างกาย ทำให้จิตใจไม่สงบ หงุดหงิดง่าย และกระตุ้นการผลิตฮอร์โมนเพศ จึงไม่เหมาะสมที่จะบริโภคในช่วงถือศีลกินเจ 

รู้หรือไม่ ? เทศกาลถือศีลกินเจในประเทศไทยมีมานานกว่า 100 ปี

ที่มาของเทศกาลกินเจ หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก เทศกาลนี้มีต้นกำเนิดในประเทศจีน และอุทิศบุญกุศลให้กับเทพเจ้าทั้งเก้าในลัทธิเต๋า เทศกาลกินเจของจีนถูกนำเข้ามาในประเทศไทยโดยคณะอุปรากรจีน สืบทอดในประเทศไทยกันมานานกว่าร้อยปี เมื่อปีพ.ศ. 2447 แต่มีมานานในประเทศจีนราว ๆ สี่ร้อยกว่าปี

กินเจ กับ มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร ?

  1. ผู้ที่กินเจสามารถรับประทานผักทุกชนิดได้ ยกเว้นผักที่มีกลิ่นฉุน 5 ชนิด ได้แก่ หอม กระเทียม กุยช่าย กระเทียมเล็ก ผักชี ส่วนผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติสามารถรับประทานพืชผักทุกชนิดได้โดยไม่มีข้อห้าม
  2. ผู้ที่กินเจไม่สามารถดื่มน้ำนมสดหรือนมข้น ส่วนผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติจะดื่มน้ำนมสดหรือนมข้นได้
  3. ผู้ที่กินเจรับประทานไข่ไม่ได้ เพราะถือว่าหากรอให้ครบกำหนดเวลาฟักไข่ย่อมฟักเป็นตัว ดังนั้น การรับประทานไข่จึงเท่ากับเป็นการรับประทานเนื้อสัตว์โดยอ้อม ส่วนผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติสามารถรับประทานไข่ได้ เพราะถือว่าไข่ที่บริโภคกันอยู่ทั่วไปเป็นไข่ที่ไม่มีเชื้อ
  4. ผู้ที่กินเจนั้น นอกจากจะต้องไม่รับประทานเนื้อสัตว์ และผักที่มีกลิ่นฉุนบางชนิดแล้ว ยังต้องถือศีลอุโบสถ (ศีล 8) ควบคู่กันไปด้วย หากไม่ถือศีลอุโบสถก็จะเรียกว่า กินเจ ไม่ได้ เรียกได้เพียงว่า กินมังสวิรัติ หรือ กินผัก เท่านั้น

สามมารถอ่านบทความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก

เทศกาลกินเจ คือ

———————————–

𝐏𝐫𝐢𝐦𝐨 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞 𝐒𝐨𝐥𝐮𝐭𝐢𝐨𝐧𝐬

เป็นผู้นำในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจรและกำกับดูแลกิจการในกลุ่มบริษัทในเครือ ให้พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งพัฒนาและลงทุนในธุรกิจสมัยใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

𝐒𝐮𝐩𝐞𝐫 𝐋𝐢𝐯𝐢𝐧𝐠 𝐒𝐞𝐫𝐯𝐢𝐜𝐞𝐬, 𝐇𝐚𝐩𝐩𝐲 𝐌𝐚𝐤𝐞𝐫

📱 Tel : 02-0810000

🌏 Website: https://primo.co.th/

📶 Line : https://lin.ee/Jt3nhkF